นางชนิดา ตะเภาน้อย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนายปัญจ์ชิเน เชื้อชาญพล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จากศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามการระบาดศัตรูในปาล์มน้ำมันและศัตรูมะพร้าว ณ แปลงปาล์มน้ำมันและมะพร้าวของ นายทนาย ปี้บ้านท่า ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในปาล์มน้ำมันพบการเข้าทำลายของด้วงกุหลาบ และด้วงแรด โดยได้แนะนำสาร คาร์บาริล 85%WP อัตรา 40-50กรัมหรือซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือใช้cartap hydrochloride 4% GR อัตรา 30 กรัมต่อต้น ใส่เป็นถุงสีชาติดไว้ที่ยอดอ่อน สำหรับต้นที่สูง 1 เมตรขึ้นไป จะป้องกันด้วงกุหลาบ และด้วงแรดได้
ส่วนต้นมะพร้าวนั้นพบการเข้าทำลายของแมลงดำหนาม ด้วงแรดและหนอนหัวดำมะพร้าว
โดยแมลงดำหนามนั้นทางศูนย์ได้ให้คำแนะนำโดยการตัดยอดอ่อนที่ยังไม่คลี่ทิ้งแล้วเผาทำลาย เพื่อตัดวงจรชีวิตของแมลงดำหนามมะพร้าว ส่วนสารเคมีที่แนะนำเป็น cartap hydrochloride 4% GR อัตรา 30 กรัมต่อต้น ใส่เป็นถุงสีชาติดไว้ที่ยอดอ่อน สำหรับต้นที่สูง 1 เมตรขึ้นไปเพื่อป้องกันการทำลายแมลงดำหนามมะพร้าวได้นาน 1 เดือน ป้องกันได้ทั้งแมลงดำหนามและด้วงแรด
การป้องกันกำจัดด้วงแรด
1. การควบคุมโดยวิธีเขตกรรม คือการกำจัดแหล่งขยายพันธุ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด ลงทุนน้อย และสะดวกเพราะอยู่บนพื้นดิน สามารถกำจัดไข่ หนอน ดักแด้และตัวเต็มวัย ไม่ให้เพิ่มปริมาณได้ โดยยึดหลักปฏิบัติดังนี้
1.1 เผาหรือฝังซากลำต้นหรือตอของมะพร้าวหรือปาล์มน้ำมัน
1.2 เกลี่ยกองซากพืช กองมูลสัตว์ให้กระจายออกโดยมีความสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร
1.3 ถ้ามีความจำเป็นต้องกองมูลสัตว์นานเกินกว่า 2-3 เดือน ควรหมั่นพลิกกลับกอง หรือนำใส่ในถุงปุ๋ยผูกปากให้แน่นและนำไปเรียงซ้อนกันไว้
2. การควบคุมโดยวิธีกล หมั่นทำความสะอาดบริเวณคอมะพร้าวหรือปาล์มน้ำมัน ตามโคนทางใบ หากพบรอยแผล เป็นรูใช้เหล็กแหลมแทงหาด้วงแรดเพื่อกำจัดเสีย
3. การควบคุมโดยใช้กับดักล่อฟีโรโมนล่อจับตัวเต็มวัย และนำมาทำลาย
4. การควบคุมโดยชีววิธี ใช้เชื้อราเขียวและเชื้อไวรัสช่วยทำลายหนอนและตัวเต็มวัยด้วงแรด
วิธีการป้องกันหนอนหัวดำ
1. ตัดทางใบมะพร้าวที่ถุกหนอนหัวดำทำลายไปเผา
2. ใช้สารเคมีฉีดพ่นใต้ทางใบให้ทั่ว ได้แก่ ฟลูเบนไดเอไมด์ 20% ดับบลิวจี อัตรา 5 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร, คลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% เอสจี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ,สปินโนแสด 12% เอสจจี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร, ลูเฟนยูรอน 5% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
3. หลังจากฉีดสารเคมี 14 วัน ศทอ.สฎ.จะสนับสนุนแตนเบียนบราคอน ฮีบีเตอร์ อัตราการปล่อย 200 ตัว/ไร่ ปล่อยทุก 15 วัน โดยปล่อยจำนวน 16 ครั้งต่อเนื่องกัน
ที่มา : 1. กรมวิชาการเกษตร
2. กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น