วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ศทอ.สฎ.ติดตามการระบาดศัตรูในปาล์มน้ำมันและศัตรูในมะพร้าว

 นางชนิดา ตะเภาน้อย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ  และนายปัญจ์ชิเน เชื้อชาญพล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จากศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามการระบาดศัตรูในปาล์มน้ำมันและศัตรูมะพร้าว ณ แปลงปาล์มน้ำมันและมะพร้าวของ นายทนาย  ปี้บ้านท่า ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในปาล์มน้ำมันพบการเข้าทำลายของด้วงกุหลาบ และด้วงแรด  โดยได้แนะนำสาร คาร์บาริล 85%WP อัตรา 40-50กรัมหรือซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร   หรือใช้cartap hydrochloride 4% GR  อัตรา 30 กรัมต่อต้น  ใส่เป็นถุงสีชาติดไว้ที่ยอดอ่อน สำหรับต้นที่สูง 1 เมตรขึ้นไป จะป้องกันด้วงกุหลาบ และด้วงแรดได้

ส่วนต้นมะพร้าวนั้นพบการเข้าทำลายของแมลงดำหนาม ด้วงแรดและหนอนหัวดำมะพร้าว  

โดยแมลงดำหนามนั้นทางศูนย์ได้ให้คำแนะนำโดยการตัดยอดอ่อนที่ยังไม่คลี่ทิ้งแล้วเผาทำลาย เพื่อตัดวงจรชีวิตของแมลงดำหนามมะพร้าว ส่วนสารเคมีที่แนะนำเป็น cartap hydrochloride 4% GR  อัตรา 30 กรัมต่อต้น  ใส่เป็นถุงสีชาติดไว้ที่ยอดอ่อน สำหรับต้นที่สูง 1 เมตรขึ้นไปเพื่อป้องกันการทำลายแมลงดำหนามมะพร้าวได้นาน 1 เดือน ป้องกันได้ทั้งแมลงดำหนามและด้วงแรด 

การป้องกันกำจัดด้วงแรด 

1.  การควบคุมโดยวิธีเขตกรรม คือการกำจัดแหล่งขยายพันธุ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด ลงทุนน้อย และสะดวกเพราะอยู่บนพื้นดิน สามารถกำจัดไข่ หนอน ดักแด้และตัวเต็มวัย ไม่ให้เพิ่มปริมาณได้ โดยยึดหลักปฏิบัติดังนี้ 

1.1 เผาหรือฝังซากลำต้นหรือตอของมะพร้าวหรือปาล์มน้ำมัน

 1.2 เกลี่ยกองซากพืช กองมูลสัตว์ให้กระจายออกโดยมีความสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร 

1.3 ถ้ามีความจำเป็นต้องกองมูลสัตว์นานเกินกว่า 2-3 เดือน ควรหมั่นพลิกกลับกอง หรือนำใส่ในถุงปุ๋ยผูกปากให้แน่นและนำไปเรียงซ้อนกันไว้ 

2.  การควบคุมโดยวิธีกล หมั่นทำความสะอาดบริเวณคอมะพร้าวหรือปาล์มน้ำมัน ตามโคนทางใบ หากพบรอยแผล เป็นรูใช้เหล็กแหลมแทงหาด้วงแรดเพื่อกำจัดเสีย 

3.  การควบคุมโดยใช้กับดักล่อฟีโรโมนล่อจับตัวเต็มวัย และนำมาทำลาย 

4.  การควบคุมโดยชีววิธี ใช้เชื้อราเขียวและเชื้อไวรัสช่วยทำลายหนอนและตัวเต็มวัยด้วงแรด

วิธีการป้องกันหนอนหัวดำ

1. ตัดทางใบมะพร้าวที่ถุกหนอนหัวดำทำลายไปเผา 

2. ใช้สารเคมีฉีดพ่นใต้ทางใบให้ทั่ว  ได้แก่ ฟลูเบนไดเอไมด์ 20% ดับบลิวจี อัตรา 5 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร, คลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% เอสจี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20  ลิตร ,สปินโนแสด 12% เอสจจี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร, ลูเฟนยูรอน 5% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร

3. หลังจากฉีดสารเคมี 14 วัน ศทอ.สฎ.จะสนับสนุนแตนเบียนบราคอน ฮีบีเตอร์ อัตราการปล่อย 200 ตัว/ไร่ ปล่อยทุก 15 วัน โดยปล่อยจำนวน 16 ครั้งต่อเนื่องกัน


ที่มา :  1. กรมวิชาการเกษตร

           2. กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น