วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 นายจิรยุทธ จิตราภิรมย์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ
ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการวินิจฉัยศัตรูพืชในระบบรายงานคลินิกพืช ซึ่งมีรายการการเกิดโรคใบติดในทุเรียน ในแปลงเกษตรกร เนื่องจากทุเรียนมีความเสี่ยงในการเกิดโรคใบติดในช่วงระยะแตกใบอ่อนถึงระยะเพสลาด ประกอบกับช่วงเวลานี้เป็นช่วงฤดูฝนตกชุกมีความชื้นสูง ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นเกษตรกรควรควรทำความเข้าใจในการเกิดโรคและหมั่นสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อป้องกันกำจัดตามแนวทาง ดังนี้ โรคใบติดลักษณะอาการ ใบที่พบจะมีรอยคล้ายๆ ถูกน้ำร้อนลวก ขอบแผลไม่แน่นอน อาจเริ่มที่ปลายใบ กลางใบ หรือโคนใบแล้วลุกลามจนเป็นทั้งใบ และจะสังเกตเห็นเส้นใยสีขาวนวลแผ่ปกคลุมคล้ายใยแมงมุมแผ่ไปตามผิวใบ การเกิดโรคจะกระจุกเป็นหย่อมๆ ใบที่ถูกทำลายจะร่วงหล่นไปในที่สุด ถ้าใบที่เป็นโรคไปสัมผัสกับใบที่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นใบที่อยู่ล่างๆ หรือใบที่อยู่เหนือกว่า ใบปกตินั้นก็จะเป็นโรคใบติดเช่นกัน
การป้องกันกำจัด
1.ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง และกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อลดความชื้นสะสม
2.ควรใส่ปุ๋ยที่มีค่าไนโตรเจนให้เหมาะสม
3.หมั่นสำรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่า เริ่มมีการระบาดของโรค ตัดส่วนที่เป็นโรค และเก็บเศษพืชที่เป็นโรคและใบที่ร่วงหล่น ไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก
4.การจัดการโดยชีววิธี ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา :รำข้าว :ปุ๋ยหมัก อัตรา 1 : 4 : 100 หว่านให้ทั่วภายในทรงพุ่มทุเรียน1-5 ปี หว่าน 2-3 กิโลกรัมต่อต้น ทุเรียน 5 ปี ขึ้นไปหว่าน 5 กก.ต่อต้น และใช้ไตรโคเดอร์มา อัตรา 1 กก. ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มและพื้นดินเพื่อป้องกันโรค
5. พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืชวาลิดามัยซิน 3 % เอสแอล อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เฮกซะโคนาโซล5% เอสซี อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 85% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 10 วัน โดยพ่นที่ใบให้ทั่วทั้งต้น